
ผักชี, ผักชีลา หรือ ผักหอมป้อม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Coriandrum sativum) เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก ใบติดกับลำต้น มีใบย่อยเป็นจำนวนมาก ใบหยักลึกเข้าหากลางใบ ดอกช่อ ดอกย่อยสีขาวอมชมพู ผลมีลักษณะรี ค่อนข้างกลม แก่จัดเป็นสีเหลืองอมน้ำตาล มีเมล็ด 2 เมล็ด ใช้รับประทานเป็นผัก และตกแต่งในอาหารหลายชนิด เช่น ใส่ในลาบ ก้อย แหนมสด รากผักชีใช้เป็นส่วนประกอบในน้ำพริกแกง ใส่ในทอดมัน ห่อหมก น้ำจิ้ม เมล็ดใช้เป็นเครื่องเทศ ใส่ในน้ำพริกแกง สะเต๊ะ บาเยีย ข้าวหมกไก่
ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร
- ช่วยลดน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
- ป้องกันโรคหวัด
- แก้อาการกระหายน้ำ
- ต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ ในลำไส้
- ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
- เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยให้ขับถ่ายคล่องมากยิ่งขึ้น
- แก้อาการวิงเวียนศีรษะ
- บำรุงสายตา
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของเลือด และกล้ามเนื้อ
อายุการเก็บเกี่ยว
- เมล็ดพันธุ์ที่มีการปลูกในปัจจุบัน คือ พันธุ์สิงคโปร์ และพัน ธุ์ไต้หวัน เมล็ดพันธุ์ผักชี ที่ซื้อตามร้านค้า มักผสมกับสารกันแมลง และความชื้นมาด้วย ควรล้างออกให้สะอาด และแช่ด้วยน้ำสะเดาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนนำมาหว่านที่แปลง เพื่อช่วยป้องกันแมลงมากัดกินเมล็ดพันธ์ุผักชี ก่อนการงอก
- สำหรับการแช่ อาจแช่ใส่ถังน้ำ หรือใส่ห่อผ้ามัด และแช่ในถังก็ได้ ไม่ควรหว่านเมล็ดเยอะ จนขึ้นเบียดกันแน่น เพราะจะทำให้ต้นเน่า อาจนำเมล็ดที่เตรียมไว้แล้ว มาผสมกับทรายหยาบ แล้วหว่านเมล็ดไปพร้อมทราย เพื่อให้เมล็ดกระจายตัว ควรใช้ฟางข้าวที่มีการบด หรือสับขนาดสั้น ๆ และไม่หว่านโปรยให้หนาจนเกินไป พร้อมทำการรดน้ำให้ชุ่ม
- เมื่อต้นผักชีเริ่มงอกให้นำ สแลน หรือตาข่ายกรองแสงมาคลุมสูงประมาณ 1 เมตร โดยเปิดให้ผักชีได้รับแสงแดดในช่วงเช้าแล้วจึงคลุมด้วยสแลนในเวลาแดดแรง รวมทั้งคลุมตอนที่ฝนตกเพื่อลดการกระแทกของฝน
- ระยะเริ่มแรกหลังการหว่านเมล็ด จะให้น้ำประมาณ 2 ครั้งต่อวัน ในช่วงเช้าเย็นทุกวัน จนถึงระยะประมาณ 30 วัน ให้เว้นช่วงวันให้น้ำ ประมาณ 2-3 วันต่อครั้ง โดยให้น้ำเช้า-เย็นเช่นกัน สำหรับช่วงก่อนการเก็บเกี่ยว ประมาณ 1 สัปดาห์ ควรให้น้ำน้อยลงประมาณ 3-4 วันต่อครั้ง
ราคา
ช่องทางการสั่งซื้อ